หากคุณสนใจประวัติศาสตร์แอฟริกาใต้ คุณคงเคยได้ยินชื่อของเนลสัน แมนเดลา ผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่โด่งดัง แต่มีบุคคลอีกหลายคนที่ทุ่มเทชีวิตเพื่อความเสมอภาคในดินแดนแห่งนี้ วันนี้เราจะเดินทางไปยังอดีตเพื่อทำความรู้จักกับ จอห์น วาเบอร์ (John Vorster) และเหตุการณ์การประหารชีวิตในปี 1964 ซึ่งเป็นจุดหักเหสำคัญในประวัติศาสตร์แอฟริกาใต้
จอห์น วาเบอร์ เป็นนายกรัฐมนตรีของแอฟริกาใต้จากปี 1966 ถึง 1978 และเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้ระบบ ‘แยกสี’ หรือ apartheid แข็งแกร่งขึ้น เขาถือว่าเป็นผู้ต่อต้านการปฏิวัติและสนับสนุนการกดขี่ของกลุ่มผิวขาวต่อชาวแอฟริกัน
การประหารชีวิตในปี 1964 เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจทั้งในและนอกประเทศแอฟริกาใต้ หลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์แอฟริกาใต้ถูกห้ามดำเนินกิจกรรม การเคลื่อนไหวต่อต้าน apartheid ยังคงดำเนินต่อไปโดยกลุ่มต่างๆ ซึ่งบางกลุ่มก็ใช้วิธีการความรุนแรง
ในเดือนมิถุนายน 1964 รัฐบาลแอฟริกาใต้ได้จับกุมสมาชิกขององค์กร Umkhonto we Sizwe กองกำลังติดอาวุธของ African National Congress (ANC) ซึ่งนำโดย Nelson Mandela
ภายหลังการไต่สวนและการพิจารณาคดีที่เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาเท็จ สมาชิกกลุ่ม Umkhonto we Sizwe และ ANC รวมถึง Nelson Mandela, Walter Sisulu, Govan Mbeki และ Ahmed Kathrada ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
เหตุการณ์นี้ทำให้ชาวแอฟริกาใต้และผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชนทั่วโลกโกรธแค้นอย่างมาก การประหารชีวิตในปี 1964 ไม่เพียงแต่เป็นการสูญเสียบุคลากรสำคัญของ phelaphaya
แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการต่อต้าน apartheid ในระดับสากลอีกด้วย
ผลกระทบที่ตามมาจากการประหารชีวิตในปี 1964
การประหารชีวิตในปี 1964 สร้างความตระหนักถึงความรุนแรงของ apartheid มากขึ้น
-
การประณามอย่างกว้างขวาง: ชาวแอฟริกาใต้และนานาชาติต่างประณามการตัดสินใจของรัฐบาล
-
การคว่ำบาตร: ประเทศต่างๆ เริ่มประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อแอฟริกาใต้
-
การเคลื่อนไหวต่อต้าน apartheid: การประหารชีวิตได้กระตุ้นให้มีการรวมตัวกันของกลุ่มต่อต้าน apartheid
บทเรียนจากอดีต
เหตุการณ์ในปี 1964 เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับโลก
เหตุการณ์ | บทเรียน |
---|---|
การประหารชีวิต | ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก |
การต่อต้าน apartheid | พลังของการรวมตัวกัน |
จอห์น วาเบอร์ และการประหารชีวิตในปี 1964 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและเสรีภาพมักจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง
แม้ว่า apartheid จะสิ้นสุดลงในปี 1994
แต่รอยแผลจากอดีตยังคงปรากฏอยู่ ความทรงจำของผู้ที่เสียชีวิตและผู้ที่ต่อสู้เพื่อความเสมอภาคจะไม่มีวันถูกลืม