การปฏิวัติรุ่งอรุณของอังกฤษ: การต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของมนุษย์

blog 2024-12-19 0Browse 0
 การปฏิวัติรุ่งอรุณของอังกฤษ: การต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของมนุษย์

ประวัติศาสตร์อังกฤษถูกจารึกด้วยเหตุการณ์สำคัญมากมาย ซึ่งแต่ละเหตุการณ์ล้วนมีบทบาทในการสร้างชาติอังกฤษให้กลายเป็นผู้นำในยุโรป และหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่าจดจำและมีอิทธิพลต่อความคิดทางการเมืองของโลกก็คือ การปฏิวัติรุ่งอรุณ (Glorious Revolution)

การปฏิวัติรุ่งอรุณเกิดขึ้นในปี 1688 เป็นการโค่นล้มกษัตริย์เจมส์ที่ 2 ซึ่งเป็นคาทอลิก และแทนที่ด้วยพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 และพระราชินีแมรีที่ 2 ซึ่งทั้งสองพระองค์เป็นโปรเตสแตนต์ เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การปฏิวัติอย่างรุนแรงที่มีการใช้ความรุนแรงและ bloodshed มากมาย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างค่อนข้างสงบ โดยได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นสูงของอังกฤษและสมาชิกสภา

เหตุผลหลักของการปฏิวัติรุ่งอรุณเกี่ยวข้องกับความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของเจมส์ที่ 2 ที่ต่อต้านโปรเตสแตนต์ ซึ่งเป็นศาสนาหลักของอังกฤษในขณะนั้น เจมส์ที่ 2 มีความตั้งใจที่จะฟื้นฟูคาทอลิซึมในอังกฤษ และดำเนินนโยบายที่กีดกันและรังแกโปรเตสแตนต์ ทำให้ชนชั้นสูงโปรเตสแตนต์เริ่มไม่พอใจ

การปฏิวัติรุ่งอรุณส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อประวัติศาสตร์อังกฤษ ในหลายด้าน

  • สถาบันกษัตริย์ถูกจำกัด: พระเจ้าวิลเลียมที่ 3 และพระราชินีแมรีที่ 2 ตกลงที่จะยอมรับ “Bill of Rights” ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่กำหนดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และจำกัดอำนาจของกษัตริย์
  • พาร์เลเมนต์มีอำนาจเพิ่มขึ้น: การปฏิวัติรุ่งอรุณนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของอำนาจของพาร์เลเมนต์ ซึ่งกลายเป็นสถาบันที่ทรงอำนาจที่สุดในประเทศ
  • การเกิดขึ้นของระบอบราชาธิปไตย: การปฏิวัติรุ่งอรุณทำลายอำนาจนิยมของกษัตริย์ และเปิดทางให้เกิดระบอบราชาธิปไตยภายใต้กฎหมาย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของประชาธิปไตยในอังกฤษ

มาร์ลโบร’’; วีรชนผู้ครองสมรภูมิยุโรป

เมื่อกล่าวถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษที่ชื่อขึ้นต้นด้วยตัวอักษร “M” เราไม่ควรพลาด John Churchill, 1st Duke of Marlborough (จอห์น เชิร์ชิลล์ ดยุกแห่งมาร์ลโบโร)

John Churchill (1650-1722) เป็นนายทหารและนักการเมืองที่โด่งดังในสมัยของพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 และพระราชินีแอนน์ มาร์ลโบรได้ชื่อว่าเป็น “วีรชน” ในยุคสงครามอังกฤษ-ฝรั่งเศส และได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในยุทธการบลันไฮม์ (Battle of Blenheim) ในปี 1704

มาร์ลโบโรเป็นผู้บัญชาการทหารที่มีความสามารถในการวางแผนและปฏิบัติการทางทหารอย่างมีประสิทธิภาพ

ยุทธการที่สำคัญ:

  • Battle of Blenheim (1704): ยุทธการครั้งนี้ถือว่าเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมาร์ลโบโร เป็นการต่อสู้กับกองทัพฝรั่งเศสและบาวาเรียน ซึ่งนำโดยMarshal Louis-François de Boufflers มาร์ลโบโรสามารถเอาชนะศัตรูได้อย่างเด็ดขาด และได้รับเกียรติยศเป็น Duke of Marlborough

  • Siege of Namur (1705): การปิดล้อมเมืองnamur (Namur) เป็นการปะทะกันระหว่างกองทัพอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์และกองทัพฝรั่งเศส นำโดยMaréchal de Villeroi มาร์ลโบโรสามารถพิชิตเมือง namur ได้สำเร็จ และยึดครอง

  • Siege of Huy (1705): การปิดล้อมเมืองHuy เป็นการต่อสู้ที่เข้มข้นระหว่างกองทัพอังกฤษและฝรั่งเศส มาร์ลโบโรสามารถตีฝ่าการป้องกันของฝ่ายฝรั่งเศส และยึดครองเมือง Huy

มาร์ลโบโรเป็นบุคคลที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ

  • ทหารผู้ lỗiเลิศ: ความสามารถในการวางแผนและปฏิบัติการทางทหารของมาร์ลโบโรทำให้เขาได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่อง
  • นักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล: มาร์ลโบโรยังมีบทบาทสำคัญในทางการเมือง

ตารางเปรียบเทียบยุทธการสำคัญของมาร์ลโบโร

ยุทธการ ปี ศัตรู ผลลัพธ์
Battle of Blenheim 1704 ฝรั่งเศส - บาวาเรียน ชนะ
Siege of Namur 1705 ฝรั่งเศส ชนะ
Siege of Huy 1705 ฝรั่งเศส ชนะ

มาร์ลโบโรเป็นตัวอย่างของความกล้าหาญ, ความสามารถ และความภักดีต่อประเทศชาติ His name is forever etched in the annals of British history.

TAGS