การปฏิวัติของอังการา: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากจักรวรรดิออตโตมันสู่สาธารณรัฐตุรกี

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษยชาติ มีเหตุการณ์มากมายที่เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ และหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดคือการปฏิวัติของอังการา การปฏิวัติครั้งนี้ได้นำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งครองคร้ามภูมิภาคตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออกมานานกว่าหกศตวรรษ และกำเนิดของสาธารณรัฐตุรกีที่ทันสมัย

เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง: จักรวรรดิออตโตมันในวิกฤต

ก่อนที่จะเข้าสู่รายละเอียดของการปฏิวัติ เราควรย้อนกลับไปดูสภาพของจักรวรรดิออตโตมันในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 จักรวรรดิซึ่งเคยเป็นมหาอำนาจทางทหารและการค้าในสมัยก่อน กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่

• ความเสื่อมถอยทางเศรษฐกิจ: การล่มสลายของระบบการค้าของจักรวรรดิ การขาดแคลนเงินทุน และการที่ประเทศตะวันตกเข้ามาครอบงำทางเศรษฐกิจ ทำให้จักรวรรดิออตโตมันประสบกับความยากจนอย่างหนัก

• ความไม่มั่นคงทางการเมือง: การแบ่งแยกดินแดน การกบฏของชนกลุ่มน้อย และความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่างๆ ในรัฐบาล ทำให้จักรวรรดิอ่อนแอลงอย่างมาก

• สงครามโลกครั้งที่ 1: สงครามครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ จักรวรรดิออตโตมันเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะ และพ่ายแพ้ในที่สุด การพ่ายแพ้ของจักรวรรดิส่งผลให้ดินแดนถูกยึดครองโดยมหาอำนาจตะวันตก

อักเมลดื: บิดาแห่งตุรกีสมัยใหม่

ภาพ อักเมลดื

ในสภาวะที่เลวร้ายนี้ มุสตาฟา เคนัล อตาทูร์ก หรือที่รู้จักกันในนาม “อักเมลดื” ได้ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำการปฏิวัติ

อักเมลดื เป็นนายทหารและนักปฏิรูปที่ชาญฉลาด เขาเกิดในเมืองเทสซาลอniken (Thessaloniki) ในปี ค.ศ. 1881 และได้เข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิออตโตมัน

การปฏิวัติของอังการา: การต่อสู้เพื่อเอกราช

หลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อักเมลดืและผู้สนับสนุนของเขาเห็นว่าจักรวรรดิออตโตมันกำลังจะล่มสลาย และพวกเขาไม่ต้องการให้ตุรกีกลายเป็นอาณานิคมของประเทศตะวันตก ดังนั้น อักเมลดืจึงได้นำการปฏิวัติโดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ

1. โค่นล้มระบอบสุลต่าน: อักเมลดืต้องการโค่นล้มอำนาจของสุลต่านเมห์เหม็ดที่หก ซึ่งเป็นผู้นำสุดท้ายของจักรวรรดิออตโตมัน
2. สถาปนาสาธารณรัฐตุรกี: อักเมลดื envisions ตุรกีในอนาคตเป็นประเทศที่ทันสมัย มีระบบประชาธิปไตย และเป็นอิสระจากการครอบงำของต่างชาติ
3. ปกป้องดินแดนตุรกี: ในขณะที่มหาอำนาจตะวันตกต้องการแบ่งแยกดินแดนของจักรวรรดิออตโตมัน อักเมลดืและผู้ติดตามต่อสู้เพื่อรักษาเอกราช

การปฏิวัติ: การต่อสู้ และชัยชนะ

การปฏิวัติเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1919 เมื่ออักเมลดืและผู้สนับสนุนของเขา ก่อตั้ง “ขบวนการชาติตุรกี”
ขบวนการนี้ได้รวบรวมกำลังจากทั่วประเทศ และต่อสู้กับกองทัพของจักรวรรดิออตโตมัน

หลังจากหลายปีของสงคราม อักเมลดืและขบวนการชาติตุรกีก็สามารถเอาชนะกองทัพของจักรวรรดิออตโตมันได้ ในปี ค.ศ. 1922 ตุรกีได้รับชัยชนะ และจักรวรรดิออตโตมันก็ถูกยุบ

สาธารณรัฐตุรกี: เริ่มต้นใหม่

หลังจากการปฏิวัติ อักเมลดืได้ประกาศตั้ง “สาธารณรัฐตุรกี” ในปี ค.ศ. 1923 เขาขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของตุรกี และดำเนินนโยบายปฏิรูปอย่างกว้างขวาง

ตาราง: ปฏิรูปที่สำคัญในสมัยอักเมลดื

|

อักเมลดืเป็นผู้นำที่ชาญฉลาดและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขานำตุรกีผ่านช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

มรดกของอักเมลดื: บิดาผู้ให้กำเนิดชาติตุรกีสมัยใหม่

อักเมลดืเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1938 แต่ผลงานและมรดกว่าของเขายังคงมีอิทธิพลต่อตุรกีในปัจจุบัน

• ตุรกีเป็นประเทศที่ทันสมัย: อักเมลดืได้นำการปฏิรูปอย่างกว้างขวาง ทำให้ตุรกีกลายเป็นประเทศที่ทันสมัย มีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และเป็นประชาธิปไตย
• ความภาคภูมิใจของชาวตุรกี: ชาวตุรกีส่วนใหญ่มีความภาคภูมิใจในอักเมลดื และมองเขาว่าเป็น “บิดาผู้ให้กำเนิดชาติ”

สรุป: การปฏิวัติของอังการา - การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

การปฏิวัติของอังการาเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ตุรกี มันนำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมันที่เก่าแก่ และการกำเนิดของสาธารณรัฐตุรกี

อักเมลดืผู้เป็นผู้นำการปฏิวัติ ได้นำตุรกีผ่านช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และทำให้ประเทศกลายเป็นชาติที่ทันสมัยและเจริญรุ่งเรือง

มรดกของอักเมลดืยังคงมีอิทธิพลต่อตุรกีในวันนี้ ชาวตุรกีส่วนใหญ่มีความภาคภูมิใจในอักเมลดื และมองเขาว่าเป็น “บิดาผู้ให้กำเนิดชาติ”