ในขณะที่รอนักเรียนไทยกำลังอ่านประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาหรือตำนานพระสุพรรณนาถ นี่คือเรื่องราวของบุคคลสำคัญผู้หนึ่งจากประเทศเพื่อนบ้าน อินโดนีเซีย ที่อาจไม่คุ้นหูนักเรียนไทยเท่าไร แต่เส้นทางชีวิตของเขาเปี่ยมไปด้วยความขัดแย้งและปรัชญาการเมืองที่น่าสนใจ ไม่ใครอื่นไกล นอกจาก สุตันโต (Soeharto)
สุตันโต เป็นอดีตประธานาธิบดีแห่งอินโดนีเซีย ซึ่งขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในปี 1967 หลังจากเหตุการณ์รัฐประหารในปี 1965 ซึ่งโค่นล้มรัฐบาลของ สุการ์ณో (Sukarno) ลีดเดอร์ผู้ยิ่งใหญ่คนก่อนหน้า
สำหรับคนที่สนใจเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่สอง, เหตุการณ์นี้มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน สงครามเย็นที่กำลังปะทุขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต ทำให้ทั่วโลกถูกแบ่งแยก ideological และอินโดนีเซียก็เช่นกัน
ฝ่ายคอมมิวนิสต์ในอินโดนีเซีย (PKI) ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากในช่วงสมัยสุการ์ณో, เริ่มถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติตะวันตก และสหรัฐอเมริกาจึงสนับสนุน สุตันโต ทหารหนุ่มผู้มีความทะเยอทะยานและฝักใฝ่ในระบอบทุนนิยม
เหตุการณ์รัฐประหาร 1965 เป็นการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างสองอุดมการณ์ขั้วตรงข้าม และถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็น “ปีแห่งความสยดสยอง” ในอินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตนับแสนคน
หลังจากขึ้นสู่อำนาจ, สุตันโต ได้นำประเทศไปสู่ยุคของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ภายใต้ “นโยบาย New Order” ซึ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรม การเกษตร และการท่องเที่ยว
สุตันโต ยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำที่เข้มแข็งและไร้ความปรานี แต่ aynı zamanda ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน
หลังจากครองอำนาจเป็นเวลา 31 ปี, สุตันโต ลาออกจากตำแหน่งในปี 1998 เนื่องจากความกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจ
สุตันโต เป็นตัวอย่างของผู้นำที่ซับซ้อนและมีส่วนร่วมในช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย
ชีวิตหลังรัฐประหาร: ช่วง “New Order” ของ สุตันโต
ภายหลังการขึ้นครองอำนาจ, สุตันโต ได้นำประเทศไปสู่ยุคที่เรียกว่า “New Order” ซึ่งเน้นการพัฒนาและความมั่นคง
-
นโยบายเศรษฐกิจ:
- โฟกัสการเติบโตทางอุตสาหกรรม
- การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
- คุมเข้มการเงินและการค้า
-
นโยบายการเมือง:
- ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง, โดยเฉพาะต่อกลุ่มที่ถูกมองว่าเป็นผู้เห็นต่าง
สุตันโต เป็นผู้นำที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง และใช้ “อาวุธ” ทั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการควบคุมทางการเมือง เพื่อรักษาอำนาจ
ยุทธศาสตร์ของ สุตันโต | รายละเอียด |
---|---|
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน | สร้างถนน, สะพาน, และท่าเรือ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเชื่อมต่อภูมิภาคต่างๆในประเทศ |
การส่งเสริมการลงทุนต่างชาติ | สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้กับนักลงทุนต่างชาติ |
การควบคุมสื่อมวลชน | จำกัดความเป็นอิสระของสื่อมวลชนเพื่อป้องกันการวิจารณ์รัฐบาล |
“มนุษย์หิน”: การประหารชีวิตในยุค “New Order”
สุตันโต ถูกขนานนามว่า “มนุษย์หิน” (Man of Steel) เนื่องจากความแข็งแกร่งและไร้ความปรานี
ในช่วงที่เขาปกครองประเทศ, มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประหารชีวิตผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์
-
ปริมาณผู้เสียชีวิต:
- ค่าประมาณจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 1965-66 แตกต่างกันไป
- บางแหล่งข้อมูลระบุว่ามีผู้เสียชีวิตสูงถึง 1 ล้านคน
-
วิธีการประหาร:
- การยิง
-
ความเป็นธรรม:
- ผู้ถูกประหารมักไม่ได้รับกระบวนการยุติธรรมที่ 公正
ช่วงสุดท้ายของ สุตันโต
ในปี 1998, สุตันโต ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเนื่องจากความกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจ
-
วิกฤตการณ์เศรษฐกิจ:
- วิกฤตการณ์การเงินเอเชีย 1997
- การขาดทุนของประเทศอย่างหนัก
-
การประท้วง:
- มีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นทั่วประเทศ
สุตันโต เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2549
บทสรุป: สุตันโต และมรดกของเขา
สุตันโต เป็นตัวอย่างของผู้นำที่มีความซับซ้อนและมีส่วนร่วมในช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย
- ด้านบวก:
- นำประเทศไปสู่ยุคเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
- ด้านลบ:
- ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
สุตันโต ยังคงเป็นบุคคลที่ถูกถกเถียงในสังคมอินโดนีเซีย
มรดกของเขาทำให้เกิดการวิเคราะห์และอภิปรายเกี่ยวกับบทบาทของผู้นำ, ความรุนแรงทางการเมือง, และความสำคัญของสิทธิมนุษยชน.