มาลา ยูซัฟไซ เป็นชื่อที่หลายคนทั่วโลกคุ้นเคย เธอเป็นนักเคลื่อนไหวและผู้รณรงค์เพื่อการศึกษาของเด็กหญิงชาวปากีสถาน ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2014 เมื่ออายุเพียง 17 ปี มาลา กลายเป็นบุคคลที่หนุ่มสาวทั่วโลกต่างชื่นชมและยอมรับ
มาลา ยูซัฟไซ เกิดในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2538 ในเมืองมิงโอร่า ประเทศปากีสถาน เธอเติบโตขึ้นในครอบครัวที่มีความคิด進步, บิดาของเธอเป็นผู้คร่ำหวอดทางการศึกษา และเป็นผู้สนับสนุนสิทธิของเด็กผู้หญิงในการเข้าถึงการศึกษามาโดยตลอด
ในขณะที่ มาลา เติบโตขึ้น, เธอเริ่มตระหนักถึงความไม่เท่าเทียมกันที่เด็กผู้หญิงในประเทศของเธอต้องเผชิญ เธอได้เห็นว่าเด็กผู้หญิงจำนวนมากถูกห้ามไม่ให้ไปโรงเรียน และไม่มีโอกาสที่จะได้รับการศึกษา
เมื่ออายุ 11 ปี มาลา เขียนบันทึกสำหรับ BBC Urdu ซึ่งเล่าถึงชีวิตของเด็กผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในหุบเขาสวāt บันทึกของเธอได้รับความนิยมอย่างมากและทำให้เธอเป็นที่รู้จักในระดับสากล
ในปี พ.ศ. 2555 ทาลิบันซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายได้ยึดครองหุบเขาสวัต และออกคำสั่งห้ามเด็กผู้หญิงไปโรงเรียน มาลา ยังคงต่อสู้เพื่อสิทธิในการศึกษาของเด็กผู้หญิง
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ในขณะที่ มาลา เดินทางกลับจากโรงเรียน เธอถูกกลุ่มทาลิบันยิงเข้าที่ศีรษะ
เหตุการณ์นี้ได้สะเทือนใจชาวโลก และทำให้ มาลา กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสิทธิในการศึกษาของเด็กผู้หญิง หลังจากได้รับการรักษาในปากีสถานและอังกฤษ มาลา ได้ก่อตั้งกองทุนมาลา เพื่อสนับสนุนการศึกษาของเด็กผู้หญิงทั่วโลก
รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2014 เป็นเกียรติยศสูงสุดที่ มาลา ได้รับ รางวัลนี้เป็นการยอมรับความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของเธอในการต่อสู้เพื่อสิทธิในการศึกษา
มาลา ยูซัฟไซ ยังคงทำงานเพื่อส่งเสริมการศึกษาของเด็กผู้หญิงทั่วโลก
เหตุการณ์สำคัญในชีวิตของ มาลา ยูซัฟไซ
- 2009: เริ่มเขียนบันทึกสำหรับ BBC Urdu
- 2012: ถูกกลุ่มทาลิบันยิง
- 2013: ก่อตั้งกองทุนมาลา
- 2014: ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
ความสำเร็จและผลกระทบของ มาลา ยูซัฟไซ
- การสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาสำหรับเด็กผู้หญิง
- การเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กผู้หญิงทั่วโลกต่อสู้เพื่อสิทธิของตนเอง
- การสนับสนุนการทำงานขององค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร (NGO) ที่มุ่งเน้นการศึกษา
มาลา ยูซัฟไซ เป็นตัวอย่างของความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น และความเชื่อมั่นในอุดมการณ์
หล่อนพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้แต่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้